โองการที่ 90,91 ซูเราะฮ์ อาลิอิมรอน
إِنَّ الَّذِينَ كَفَرُوا بَعْدَ إِيمَنِهِمْ ثُمَّ ازْدَادُوا كُفْراً لَّن تُقْبَلَ تَوْبَتُهُمْ وَ أُولَئك هُمُ الضالُّونَ (90) إِنَّ الَّذِينَ كَفَرُوا وَ مَاتُوا وَ هُمْ كُفَّارٌ فَلَن يُقْبَلَ مِنْ أَحَدِهِم مِّلْءُ الاَرْضِ ذَهَباً وَ لَوِ افْتَدَى بِهِ أُولَئك لَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ وَ مَا لَهُم مِّن نَّصِرِينَ(91)
ความหมาย
90. แท้จริง บรรดาผู้ปฏิเสธหลังจากการศรัทธาของพวกเขา หลังจากนั้นเขาได้เพิ่มการปฏิเสธ การลุแก่โทษของเขา (ที่เกิดจากความจำเป็น หรือใกล้จะสิ้นลมหายใจ) จะไม่ถูกยอมรับเด็ดขาด และพวกเขาเป็นผู้ที่หลงทาง (ที่แท้จริง เนื่องจากหลงไปจากทางของอัลลอฮฺ และการลุแก่โทษ)
91. แท้จริง บรรดาผู้ปฏิเสธ และพวกเขาตายขณะเป็นผู้ปฏิเสธ แม้ว่าแผ่นดินจะเต็มไปด้วยทองคำ และไถ่โทษด้วยทองนั้น จะไม่ถูกรับจากคนใดในหมู่พวกเขาเป็นอันขาด สำหรับพวกเขาคือ การลงโทษอันเจ็บปวด และจะไม่มีผู้ช่วยเหลือสำหรับเขา
สาเหตุของการประทานโองการ
บางคนกล่าวว่า โองการแรกประทานให้แก่ชาวคัมภีร์ ซึ่งพวกเขาศรัทธาต่อท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ก่อนการแต่งตั้ง แต่หลังจากได้รับการแต่งตั้งแล้ว พวกเขากลับปฏิเสธ บางคนกล่าวว่า โองการประทานให้แก่ ฮาริซ บุตรของ ซะวียะฮฺ กับสหายของเขาอีก 11 คน ที่หันหลังให้อิสลาม แต่ต่อมาฮาริซสำนึกผิด และลุแก่โทษ ส่วนสหายทั้ง 11 คน มิได้กลับใจ ยังเป็นผู้ปฏิเสธเช่นเดิม พวกเขากล่าวแก่ฮาริซว่า เราจะอยู่ในมักกะฮฺ และเราจะร่วมกันต่อต้านมุฮัมมัด (ซ็อล ฯ) ต่อไป เรารอคอยความพ่ายแพ้ของเขา ถ้าเราไปถึงเป้าหมายก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดียิ่งสำหรับเรา แต่ถ้าเราไม่ประสบความสำเร็จ แนวทางของการลุแก่โทษเปิดต้อนรับเราเสมอ เมื่อท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) พิชิตมักกะฮฺได้ บางคนได้ยอมรับอิสลามใหม่อีกครั้ง การลุแก่โทษของเขาถูกยอมรับ ส่วนผู้ที่อยู่ในสภาพของผู้ปฏิเสธ พวกเขาตายขณะเป็นผู้ปฏิเสธ
คำอธิบาย การลุแก่โทษที่ไม่มีประโยชน์
โองการก่อนหน้านี้กล่าวถึงบุคคลที่อยู่ระหว่างหนทางสองแพ่ง ซึ่งสำนึกผิดจากการหลงผิดของตน และลุแก่โทษด้วยความบริสุทธิ์ใจ การลุแก่โทษของเขาจึงถูกยอมรับ ส่วนโองการนี้ กล่าวถึงบุคคลที่การลุแก่โทษของเขาไม่ถูกยอมรับ ซึ่งได้แก่ผู้ที่ตอนแรกศรัทธา ต่อมาได้ปฏิเสธและยืนหยัดบนการปฏิเสธของตน ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งที่ถูกต้อง เว้นแต่ว่าเมื่อพวกเขาเผชิญปัญหาอย่างรุนแรง และไม่มีหนทางอื่นอีกแล้ว นอกจากการเชื่อฟังและการลุแก่โทษ แน่นอน การลุแก่โทษของบุคคลประเภทนี้จึงไม่ถูกตอบรับ การลุแก่โทษของพวกเขาเป็นเพียงเปลือกนอก เนื่องจากเมื่อเขาพบกับผู้ที่แสวงหาสัจธรรม เขาก็แสร้งทำเป็นสำนึกผิด ทั้งที่จิตใจของเขามิได้เป็นเช่นนั้น
อีกนัยหนึ่งบุคคลประเภทนี้จะสำนึกผิด และทำการลุแก่โทษก็ต่อเมื่อตนกำลังจะสิ้นใจตาย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าในช่วงเวลานั้น ประตูแห่งการขออภัยโทษได้ปิดลงแล้ว การลุแก่โทษในเวลานั้นจึงไม่ถูกตอบรับ เป็นการลุแก่โทษที่ไร้ประโยชน์
โองการถัดมากล่าวถึงการไถ่บาปที่ไม่มีประโยชน์ เป็นที่ประจักษ์ว่าการปฏิเสธจะทำลายการกระทำดีทั้งหมด แม้ว่าพื้นแผ่นดินจะเต็มไปด้วยทองคำ และเขาได้บริจาคบนหนทางของพระเจ้า แต่จะไม่ถูกตอบรับเด็ดขาด และในวันฟื้นคืนชีพ แม้ว่าเขามีสิ่งเหล่านี้อยู่ในมือ และแจกจ่ายออกไปก็จะไม่ถูกตอบรับ
แน่นอน จุดประสงค์ที่กล่าวเช่นนี้ (แผ่นดินเต็มไปด้วยทองคำและบริจาคออกไป) หมายถึง แม้ว่าเขาจะบริจาคออกไปไม่ว่าจะมากหรือน้อย ถ้าจิตวิญญาณยังสกปรกอยู่ การบริจาคของเขาก็จะไร้มรรคผล และไม่ก่อประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น เวลานั้นทองคำจำนวนมากมายแต่ไม่มีค่า มันจะแตกต่างอะไรไปจากดิน ด้วยเหตุนี้ จะเห็นว่าประโยคข้างบนบ่งบอกถึงขอบเขตอันกว้างไกลของการบริจาค
ประโยคที่กล่าวว่า สำหรับพวกเขาคือ การลงโทษอันเจ็บปวด และจะไม่มีผู้ช่วยเหลือสำหรับเขา บ่งบอกว่ามิใช่ เฉพาะการไถ่บาป และการบริจาคจะไม่ให้ประโยชน์แก่ตน ทว่าการอนุเคราะห์ (ชะฟาอะฮฺ) และผู้อนุเคราะห์ในวันนั้น ก็จะไม่ครอบคลุมมาถึงตน เนื่องจากการชะฟาอะฮฺ มีเงื่อนไขมากมาย ซึ่งหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญคือ ความศรัทธาต่อพระเจ้า ฉะนั้น ถ้าผู้ให้ชะฟาอะฮฺทั้งหมดร่วมตัวกันในวันฟื้นคืนชีพ เพื่อให้ชะฟาอะฮฺแก่ผู้กระทำความผิด การชะฟาอะฮฺก็จะไม่ถูกตอบรับ เนื่องจากชะฟาอะฮฺ ต้องได้รับอนุญาตจากพระเจ้า และผู้ให้ชะฟาอะฮฺจะไม่ให้ชะฟาอะฮฺแก่ผู้ที่ไม่มีสิทธิ์รับชะฟาอะฮฺเด็ดขาด เนื่องด้วยคำอนุญาตของพระเจ้า จะไม่ครอบคลุมไปถึงผู้ที่ไม่เหมาะสม
โอ้อัลลอฮฺ โปรดเมตตาต่อพวกเรา ให้พวกเราได้ลุแก่โทษก่อนที่ ประตูแห่งการลุแก่โทษจะถูกปิดลง และก่อนที่เราจะกลับไปหาพระองค์
โอ้อัลลอฮฺ โปรดเมตตาต่อพวกเรา ให้พวกเราได้ร่วมรับชะฟาอะฮฺจากผู้สะอาดบริสุทธิ์ด้วยเถิด
โอ้อัลลอฮฺ โปรดทำให้บั้นปลายสุดท้ายของเราดี ซึ่งถือว่าเป็นความโปรดปรานที่ดีที่สุดของพระองค์ อามีน ยาร็อบบัลอาละมีน