@laravelPWA
โองการที่ 48,49 ซูเราะฮ์ อาลิอิมรอน
  • ชื่อ: โองการที่ 48,49 ซูเราะฮ์ อาลิอิมรอน
  • แหล่งที่มา:
  • วันที่วางจำหน่าย: 2:10:43 11-6-1404

โองการที่ 48,49 ซูเราะฮ์ อาลิอิมรอน


وَ يُعَلِّمُهُ الْكِتَب وَ الْحِكمَةَ وَ التَّوْرَاةَ وَ الانجِيلَ (48) وَ رَسولاً إِلى بَنى إِسرءِيلَ أَنى قَدْ جِئْتُكُم بِئَايَةٍ مِّن رَّبِّكمْ أَنى أَخْلُقُ لَكم مِّنَ الطينِ كَهَيْئَةِ الطيرِ فَأَنفُخُ فِيهِ فَيَكُونُ طيرَا بِإِذْنِ اللَّهِ وَ أُبْرِىُ الاَكمَهَ وَ الاَبْرَص وَ أُحْىِ الْمَوْتى بِإِذْنِ اللَّهِ وَ أُنَبِّئُكُم بِمَا تَأْكلُونَ وَ مَا تَدَّخِرُونَ فى بُيُوتِكمْ إِنَّ فى ذَلِك لاَيَةً لَّكُمْ إِن كُنتُم مُّؤْمِنِينَ (49)

ความหมาย

48. และพระองค์ทรงสอนคัมภีร์ วิทยปัญญา เตารอต และอินญีล แก่เขา

49. และ (ทรงแต่งตั้งเขาให้เป็น) ทูตแก่วงศ์วานอิสรออีล (กล่าวแก่พวกเขาว่า) แน่นอน ฉันได้นำสัญญาณจากพระผู้อภิบาลของพวกท่านมายังพวกท่าน คือฉันจะปั้นนกด้วยดินสำหรับพวกท่าน หลังจากนั้นฉันจะเป่าไปบนมัน โดยคำสั่งของอัลลอฮฺมันกลายเป็นนก และโดยอนุมัติของอัลลอฮฺ ฉันรักษาคนตาบอดโดยกำเนิด คนโรคเรื้อนให้หายปกติ และฉันให้ผู้ที่ตายแล้วมีชีวิตขึ้นโดยอนุมัติของอัลลอฮฺ และฉันจะแจ้งแก่พวกท่านถึงสิ่งที่พวกท่านบริโภคและสิ่งที่พวกท่านสะสมไว้ในบ้านของพวกท่าน แท้จริง ในนั้นมีสัญญาณสำหรับพวกท่าน ถ้าพวกท่านเป็นผู้ศรัทธา

คำอธิบาย คุณลักษณะอื่นของมะซีฮฺอีซา

โองการนี้อธิบายถึงคุณลักษณะสองประการของอีซา (อ.) ต่อจากโองการที่แล้วที่กล่าวไว้ 4 ประการคือ เป็นผู้มีเกียรติทั้งโลกนี้และโลกหน้า เป็นผู้ใกล้ชิดพระเจ้า พูดตั้งแต่อยู่ในเปล และเป็นกัลญาณชน ซึ่งคุณลักษณะแต่ละประเภทครอบคลุมคุณลักษณะที่สำคัญอื่นไว้ด้วย ประการแรกคือ สอนคัมภีร์ และวิทยปัญญา ซึ่งพระองค์ทรงยกตัวอย่างที่ชัดเจนสำหรับคัมภีร์และวิทยปัญญาไว้คือ เตารอตและอินญิล

แน่นอน บุคคลที่อยู่ในฐานะของผู้สังคมที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระเจ้า อันดับแรกต้องมีความรู้และวิชาการที่เพียงพอ ต้องเป็นผู้นำกฎเกณฑ์และระเบียบต่าง ๆ มาสั่งสอน อันดับรองลงมา ต้องแสดงหลักฐานที่ตนสามารถติดต่อกับพระเจ้าได้ ซึ่งสองประเด็นข้างต้นเป็นสื่อทำให้การชี้นำประชาชนบังเกิดความสมบูรณ์ และโองการข้างต้นกล่าวถึงสองประเด็นสำคัญไว้ โดยโองการแรกกล่าวถึงความรู้ วิชาการ และคัมภีร์แห่งฟากฟ้าของอีซา (อ.) ส่วนโองการที่สองกล่าวถึง อภินิหารหลายประการของอีซา

ประโยคที่กล่าวว่า ทรงแต่งตั้งเขาให้เป็นทูตแก่วงศ์วานอิสรออีล การที่พระองค์ตรัสเช่นนี้ อาจเป็นเพราะว่า หน้าที่สำคัญของอีซา (อ.) คือ เชิญชวนพวกวงศ์วานอิสรออีล ท่านต้องเผชิญกับอุปสรรคปัญหา ความเชื่อผิด ๆ และความเสื่อมทรามด้านความประพฤติ แต่สิ่งนี้ไม่ได้ขัดแย้งต่อการเป็นศาสดาผู้เป็นเจ้าของบทบัญญัติแต่อย่างใด เนื่องจากบุคคลที่เป็นศาสดาดังกล่าวเพียงแค่มีบทบัญญัติใหม่ ๆ ไม่ว่าหน้าที่ของท่านจะครอบคลุมกว้างระดับโลกหรือไม่ก็ตาม

อิกด้านหนึ่ง การเชิญชวนของบรรดาศาสดาในความเป็นจริงคือ การเคลื่อนไปสู่การมีชีวิตที่แท้จริง โองการข้างต้นเมื่ออธิบายถึง อภินิหารของอีซา (อ.) อันดับแรกกล่าวถึงการให้ชีวิตแก่สิ่งที่ไร้ชีวิตโดยคำสั่งของพระเจ้า ซึ่งการให้ชีวิตใหม่ถ้าเป็นไปที่ละน้อยไม่ใช่สิ่งประหลาดแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นที่ทราบดีว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนโลกปัจจุบัน ล้วนมาจากดินและน้ำที่มีอยู่ แต่อภินิหารหมายถึง พระเจ้าทรงนำวัตถุดิบบนโลกที่มีมาหลายล้านปี หลังจากนั้นทรงให้อีซาปั้นนกด้วยวัตถุดิบนั้น แล้วทรงเปลี่ยนให้เป็นสิ่งมีชีวิต ซึ่งสิ่งนี้เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความสัจจริงของผู้ที่อ้างตนเป็นศาสดา เนื่องจากสามารถติดต่อกับสิ่งที่อยู่พ้นญาณวิสัยของมนุษย์ ซึ่งเป็นอำนาจที่ไม่มีที่สิ้นสุดของพระเจ้า

หลังจากนั้นอธิบายถึง อภินิหารที่สองของอีซา (อ.) คือ การรักษาคนป่วย และคนเป็นโรคเรื้อนที่ไม่มีวันรักษาให้หายเป็นปกติได้ ไม่มีความคลางแคลงใจในอภินิหารที่ไม่อาจปฏิเสธได้ เนื่องจากเป็นที่ยอมรับของวงการแพทย์ในปัจจุบันว่า เมื่อประมาณหลายพันปีที่แล้วโรคเหล่านี้ไม่มีโอกาสรักษาให้หายได้ แต่อีซา (อ.) รักษาให้หายได้

อภินิหารที่สามคือ การให้ชีวิตแก่สิ่งที่ตายแล้วให้ฟื้นขึ้นมา โดยอนุมัติของพระเจ้า

อภินิหารที่สี่คือ การแจ้งข่าวถึงสิ่งที่เร้นลับ ที่พวกเขาปกปิดเอาไว้ เพราะเป็นเรื่องปกติของปุถุชนที่มักมีความลับซ่อนไว้ เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นรับรู้ ถ้ามีบุคคลที่ไม่เคยทราบมาก่อนว่า ผู้คนบริโภคสิ่งใดเป็นอาหาร หรือเก็บกักตุนสิ่งใดไว้ ซึ่งเขาสามารถบอกถึงรายละเอียดของสิ่งเหล่านั้นได้ทั้งหมด สิ่งนี้มิได้เป็นเหตุผลที่เขาผู้นั้นได้รับการดลใจจากพระเจ้าดอกหรือ อีซากล่าวกับผู้คนว่า ฉันจะแจ้งแก่พวกท่านถึงสิ่งที่พวกท่านบริโภคและสิ่งที่พวกท่านสะสมไว้ในบ้านของพวกท่าน

ประเด็นสำคัญ

บรรดาอภินิหารทั้งหลายตามที่โองการกล่าวถึง ล้วนเป็นอภินิหารที่ศาสดาได้แสดงแก่ประชาชน แม้ว่าจะได้รับอนุมัติ และพลังอำนาจมาจากพระเจ้าก็ตาม ดังนั้น สามารถกล่าวได้ว่าอภินิหารคือ ภารกิจร่วมระหว่างพระเจ้ากับศาสดา หมายถึงพระเจ้าทรงให้อนุมัติ แต่ศาสดาเป็นผู้ปฏิบัติ ที่สำคัญ โองการกล่าวซ้ำว่าสิ่งที่อีซา (อ.) กระทำ ล้วนได้รับอนุมัติจากพระเจ้าทั้งสิ้น เพื่อเป็นเหตุผลว่าอีซา (อ.) ไม่ใช่พระเจ้า ดังที่บางคนอ้างว่าอีซา (อ.) เป็นพระเจ้า