@laravelPWA
โองการที่ 15,16,17 ซูเราะฮ์ อาลิอิมรอน
  • ชื่อ: โองการที่ 15,16,17 ซูเราะฮ์ อาลิอิมรอน
  • แหล่งที่มา:
  • วันที่วางจำหน่าย: 2:10:42 11-6-1404

โองการที่ 15,16,17 ซูเราะฮ์ อาลิอิมรอน


قُلْ أَ ؤُنَبِّئُكم بِخَيرٍ مِّن ذَلِكمْ لِلَّذِينَ اتَّقَوْا عِندَ رَبِّهِمْ جَنَّتٌ تَجْرِى مِن تحْتِهَا الاَنْهَرُ خَلِدِينَ فِيهَا وَ أَزْوَجٌ مُّطهَّرَةٌ وَ رِضوَنٌ مِّنَ اللَّهِ وَ اللَّهُ بَصِيرُ بِالْعِبَاد ِ(15) الَّذِينَ يَقُولُونَ رَبَّنَا إِنَّنَا ءَامَنَّا فَاغْفِرْ لَنَا ذُنُوبَنَا وَ قِنَا عَذَاب النَّارِ (16)الصبرِينَ وَ الصدِقِينَ وَ الْقَنِتِينَ وَ الْمُنفِقِينَ وَ الْمُستَغْفِرِينَ بِالاَسحَار ِ(17)

ความหมาย

15. จงกล่าวเถิด จะให้ฉันบอกพวกท่านถึงสิ่งที่ดีกว่านี้ (วัตถุปัจจัยทางโลก) ไหม สำหรับบรรดาผู้สำรวมตนจากความชั่ว (ใช้ทรัพย์เหล่านั้นไปในหนทางที่ถูกต้อง ยุติธรรม) ณ พระผู้อภิบาลของพวกเขา (ในปรโลก) คือสวนหลากหลาย ซึ่งเบื้องล่างมีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดไป และคู่ครองที่บริสุทธิ์ (พวกเขาจะได้รับ) ความปราโมทย์ จากอัลลอฮฺ และอัลลอฮฺ ทรงมอง (ภารกิจ) ของปวงบ่าว

16. บรรดาผู้กล่าวว่า โอ้พระผู้อภิบาลเรา แท้จริง เราศรัทธาแล้ว ดังนั้น ได้โปรดทรงอภัยความผิดของเรา และได้ทรงโปรดปกป้องเราให้พ้นจากการลงโทษของไฟ

17. บรรดาผู้อดทน (ต่อปัญหา การภักดี และละเว้นบาป) และบรรดาผู้สัตย์จริง (ณ เบื้องพระพักตร์) และบรรดาผู้นอบน้อม บรรดาผู้บริจาค (ในหนทางของพระองค์) และบรรดาผู้ขออภัยในยามใกล้รุ่ง

คำอธิบาย

สิ่งที่โองการที่แล้วกล่าวถึงคือ วัตถุปัจจัยที่เป็นของรักของมนุษย์สำหรับชีวิตทางโลก ส่วนโองการนี้พระเจ้าทรงเปรียบเทียบของสิ่งนั้น ด้วยความโปรดปรานแห่งโลกหน้า อันเป็นเครื่องหมายความสมบูรณ์ของมนุษย์ หลังจากนั้นทรงอธิบายถึงรายละเอียด โองการกล่าวว่า สำหรับบรรดาผู้สำรวมตนจากความชั่ว (ใช้ทรัพย์เหล่านั้นไปในหนทางที่ถูกต้อง ยุติธรรม) ณ พระผู้อภิบาลของพวกเขา (ในปรโลก) คือสวนหลากหลาย ซึ่งเบื้องล่างมีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านพวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดไป และคู่ครองที่บริสุทธิ์ และที่สูงส่งไปกว่าสิ่งอื่นใดคือ พวกเขาจะได้รับ ความปราโมทย์จากพระเจ้า

แน่นอน สวนต่าง ๆ ในสวรรค์มีความแตกต่างกับสวนทั่วไป ซึ่งสวนนั้นจะมีธารน้ำไหลผ่านตลอดเวลาชนิดที่ไม่มีวันเหือดแห้ง ต่างไปจากความโปรดปรานทางโลกที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีความมั่นคงถาวร และไม่หยั่งยืนเป็นนิรันดร

ภรรยาในโลกนั้นมีความสวยงามอย่างยิ่ง ต่างไปจากความสวยงามที่พบเห็นบนโลก นางไม่มีข้อตำหนิ หรือจุดด่างพร้อยบนเรือนร่างและจิตใจ สะอาดบริสุทธิ์จากข้อบกพร่องทั้งมวล อีกด้านหนึ่งความปราโมทย์ของพระเจ้า ซึ่งนับว่าเป็นความโปรดปรานสูงสุดที่ประทานให้แก่ผู้มีความยำเกรง ต่างรอคอยบรรดาผู้ยำเกรง

โองการข้างต้นต้องการแจ้งแก่บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายว่า ถ้าเพียงพอต่อชีวิตที่อนุมัติทางโลก ไม่ละโมบในกิเลส ไม่เป็นทาสอารมณ์ใฝ่ต่ำ ไม่กดขี่ข่มเหงคนอื่น สำรวมตนจากบาปกรรม และไม่นำวัตถุปัจจัยทางโลกไปแสวงหาความสุขในทางที่ผิด แน่นอนรางวัลต่าง ๆ ที่กล่าวมาย่อมเป็นของเขา

ในสวรรค์มีความสุขบนวัตถุปัจจัยหรือไม่

บางคนคิดว่าความสุขด้านวัตถุเฉพาะบนโลกนี้เท่านั้น ส่วนในโลกหน้าจะไม่ได้พบความสุขเช่นนี้อีกต่อไป ส่วนความสุขที่โองการกล่าวถึงไม่ว่าจะเป็นสวนที่มีลำธารน้ำไหลผ่าน ผลไม้นานาชนิด ภรรยาที่มีความสวยงาม เป็นคำพูดที่เปรียบให้เห็นตำแหน่ง และความโปรดปรานพิเศษแก่จิตใจ ประหนึ่งทรงตรัสกับประชาชนตามความเหมาะสมของสติปัญญา

คำว่า กอนีน มาจากรากศัพท์ของคำว่า กุนูต หมายถึง ความนอบน้อมเมืออยู่ ณ พระพักตร์ของพระผู้อภิบาล หรือบางคนอธิบายว่า หมายถึงการแสดงความเคารพภักดีอย่างต่อเนื่อง

คำว่า ซะฮัร ตามรากศัพท์หมายถึง การปกปิดหรือการซ่อน เนื่องจากช่วงสุดท้ายของกลางคืนจะมีการปกคลุมที่เฉพาะพิเศษเหนือทุกสรรพสิ่งจึงเรียกว่า ซะฮัร คำนี้ถ้ามาบนรูปของคำว่า บะชัร หมายถึงการปกปิดด้านในของมนุษย์ แต่ถ้ามาบนรูปของคำว่า ชะอัร หมายถึงการปกปิดเช่นกัน แต่เป็นการปกปิดในอีกลักษณะหนึ่ง เช่น นักมายากลเมื่อเขาแสดงมายากล เขาจะปกปิดความลับมิให้คนอื่นเห็น

โองการนี้แนะนำคุณสมบัติพิเศษ 6 ประการ ของบรรดาผู้ความสำรวมตน ดังที่โองการก่อนหน้านี้กล่าวนำไว้ ได้แก่

1. พวกเขามุ่งมั่นจิตวิญญาณทั้งหมดต่อพระผู้อภิบาล พลังศรัทธาให้แสงสว่างแก่จิตใจ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงมีความรับผิดชอบในหน้าที่สูง โองการ กล่าวว่า บรรดาผู้กล่าวว่า โอ้พระผู้อภิบาลเราแท้จริง เราศรัทธาแล้ว ดังนั้น ได้โปรดทรงอภัยความผิดของเรา และได้ทรงโปรดปกป้องเราให้พ้นจากการลงโทษของไฟ

2. พวกเขามีความอดทนสูง ซึ่งครอบคลุมความอดทนเมื่อเผชิญการทดสอบ อดทนต่อการเชื่อฟังปฏิบัติตาม และการหลีกเลี่ยงการกระทำบาปทั้งหลาย

3. พวกเขาเป็นผู้สัตย์จริง ซึ่งมีความสัตย์จริงทั้งคำพูดและการกระทำ พวกเขาจะไม่มุสาแม้เพียงเล็กน้อย

4. พวกเขาเชื่อฟังปฏิบัติตาม เมื่ออยู่ ณ เบื้องพระพักตร์จะนอบน้อมถ่อมตน และปฏิบัติตามพระบัญชาด้วยการภักดีเชื่อฟัง

5. พวกเขาเป็นผู้บริจาคทาน เมื่อมีทรัพย์สินจะบริจาคบนหนทางของพระเจ้า ด้วยความบริสุทธิ์ใจ

6. พวกเขาจะขออภัยในยามใกล้รุ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเซาะลาตุลลัยน์ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจะตื่นตอนกลางคืน นมาซนาฟิละฮฺต่าง ๆ และวิงวอนขออภัยในยามใกล้รุ่ง

รายงานจากอิมามซอดิก (อ.) กล่าวอธิบายโองการดังกล่าวว่า บุคคลใดกล่าวว่า อัซตัฆฟิรุลลอฮะร็อบบีวะอะตูบุอิลัยฮิ 70 ครั้งในนมาซวิตรฺ (นมาซเราะกะอัตสุดท้ายของเซาะลาตุลลัยน์) ซึ่งปฏิบัติเช่นนั้นติดต่อกันนานหนึ่งปี พระเจ้าทรงประทานให้เขาเป็นผู้ขออภัยในยามใกล้รุ่ง ดังที่อัล-กุรอานกล่าวถึง และให้เขาได้รับการอภัย และความเมตตาของพระองค์