โองการที่ 5,6 ซูเราะฮ์ อาลิอิมรอน
إِنَّ اللَّهَ لا يخْفَى عَلَيْهِ شىْءٌ فى الأَرْضِ وَ لا فى السمَاءِ (5) هُوَ الَّذِى يُصوِّرُكمْ فى الأَرْحَامِ كَيْف يَشاءُ لا إِلَهَ إِلا هُوَ الْعَزِيزُ الحَْكِيمُ (6)
ความหมาย
5. แท้จริง อัลลอฮฮนั้น ไม่มีสิ่งใดในแผ่นดิน และในฟากฟ้าจะซ่อนเร้นพระองค์ได้ (ฉะนั้น การบริบาลจึงมิเป็นปัญหาสำหรับพระองค์)
6. พระองค์คือ ผู้ทรงทำให้สูเจ้ามีรูปร่างในมดลูก (มารดา) ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากพระองค์ ผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณ
คำอธิบาย ความรอบรู้ และอำนาจที่ไม่มีที่สิ้นสุดของพระเจ้า
โองการต่อไปนี้กล่าวถึงอำนาจและความเกริกเกียรติเกรียงไกรของพระเจ้า เป็นการอธิบายความสมบูรณ์ของพระองค์ต่อจากโองการที่แล้วที่ว่า พระองค์ คือผู้ทรงชีวิตอยู่เสมอ ผู้ทรงดำรงอยู่นิจกาล การบริบาลโลกและจักรวาลอยู่ในอำนาจของพระองค์ พระองค์ทรงลงโทษผู้ปฏิเสธที่ดื้อรั้น แม้ว่าจะไม่เปิดเผยการปฏิเสธของตนก็ตาม ซึ่งสิ่งนี้ต้องอาศัยความรู้และอำนาจที่พ้นญาณวิสัยของมนุษย์ในการจำแนก
เป็นไปได้อย่างไรที่จะมีบางสิ่งบางอย่างปกปิดพระองค์ เนื่องจากพระองค์ทรงปรากฏทุกที่ ทรงมองเห็นทุกสิ่ง และด้วยเหตุผลที่ว่าการมีอยู่ของพระองค์ไม่มีขอบเขตจำกัด ไม่มีที่สิ้นสุดจึงไม่มีที่ใดว่างเว้นจากพระองค์ พรองค์ทรงใกล้ชิดกับเรามากกว่าตัวเรา ฉะนั้น ขณะที่พระองค์ไม่ต้องการเวลา และสถานที่แต่พระองค์ทรงครอบคลุมเหนือทุกสรรพสิ่ง ซึ่งการครอบคลุมในที่นี้หมายถึง การปรากฏของพระองค์เมื่อเทียบไปยังทุกสรรพสิ่ง และทุกสถานที่ กล่าวคือ ความรู้ของพระองค์ครอบคลุมเหนือทุกสรรพสิ่ง
โองการถัดมากล่าวถึง การกำหนดรูปร่างทารกในครรภ์ของมารดา การวาดภาพบนน้ำ บนสภาพแวดล้อมที่มืดมิด ซึ่งเป็นภาพที่ประหลาด แต่มีความต่อเนื่อง แน่นอนสิ่งนี้ย่อมสร้างความอัศจรรย์ใจแก่ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวาดรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างกัน เพศ ความสามารถ ความแตกต่างด้านคุณสมบัติ อารมณ์ความรู้สึก และอื่น ๆ
ดังนั้น ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีสิ่งคู่ควรต่อการเคารพภักดีอื่นใด นอกจากพระองค์ ก็ด้วยเหตุผลดังกล่าวที่ว่า ไม่มีสิ่งใดคู่ควรต่อการเคารพภักดีนอกจากอาตมันบริสุทธิ์ของพระองค์ ฉะนั้น ด้วยเหตุผลใดที่มนุษย์ต้องเคารพภักดีศาสดาอีซา (อ.) ซึ่งรู้จักกันในนามของ เยซู การที่อัล-กุรอาน กล่าวเช่นนี้ เพื่อต้องการชี้ให้เห็นประเด็นดังที่กล่าวไว้ในสาเหตุของการประทานโองการตั้งแต่ต้น ซึ่งบรรดาคริสตศาสนิกต่างให้การยอมรับว่า อีซา ถูกเลี้ยงดูในครรภ์ของพระนางมัรยัม จึงถือว่าเป็นสิ่งถูกสร้างหนึ่ง มิใช่ผู้สร้าง ดังนั้น อีซาจะกลายเป็นสิ่งคู่ควรต่อการเคารพภักดีได้อย่างไร
ประเด็นสำคัญ
สัญลักษณ์ต่าง ๆ ของอำนาจ และความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าในการสร้างทารก
เมื่อกล่าวถึงความมหัศจรรย์ในการสร้างทารกพระเจ้า ถ้านำเอาความรู้ปัจจุบันมาวิจัยค้นคว้าจะเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนมากที่สุด การเริ่มต้นของทารกเริ่มจากเซลล์ตัวเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็นรูปร่าง อวัยวะ และส่วนประกอบอย่างอื่น แต่ทารกมีการวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วในครรภ์ของมารดา มีการสับเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ทุกวัน ประหนึ่งว่ามีนักออกแบบหลายคนนั่งรวมกันอยู่ข้าง ๆ ทารกนั้น และช่วยกันออกแบบวาดเขียนภาพนั้นทั้งวันทั้งคืน เซลล์เล็ก ๆ ตัวหนึ่งเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ วิวัฒนาการกลายเป็นทารกพำนักอยู่ในครรภ์ของมารดา ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือที่มีความละเอียดอ่อน ยุ่งยาก ประณีต และสร้างความตื่นเต้นตลอดเวลา
ทารกสื่อสัมพันธ์กับมารดาทางสายสะดือ ทารกที่ยังเป็นเซลล์ดูดซับอาหารจากเลือดที่อยู่ในรกผ่านทางสายสะดือ และค่อยเติบโตกลายเป็นก้อนเลือดในระยะเวลาหนึ่ง เซลล์ต่าง ๆ จะค่อย ๆ ปรับตัว
ดูผิวเผินจะมองไม่เห็นความแตกต่างเท่าใดนัก แต่จากจุดนี้เป็นต้นไปทารกจะค่อยเปลี่ยนเป็นรูปร่าง อวัยวะส่วนต่าง ๆ ค่อย ๆ เจริญเติบโตออกมา เซลล์จะแบ่งกลุ่มและหน้าที่ในการสร้างสื่อต่าง ๆ ที่จำเป็นของร่างกายอย่างอัตโนมัติ เช่น สร้างระบบประสาท ระบบไหลเวียนเลือด ระบบย่อยอาหาร และอื่น ๆ เมื่อผ่านขั้นตอนนี้ไปแล้ว และทารกมีรูปร่างสมบูรณ์ถูกห่อหุ้มด้วยถึงน้ำชั้นหนึ่ง อาศัยอยู่ในมดลูกของมารดา เมื่ออวัยวะแข็งแรงพอสมควรในระยะหนึ่ง ก็จะคลอดพ้นครรภ์มารดาออกมา