@laravelPWA
โองการที่ 278- 279-280- 281 ซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์
  • ชื่อ: โองการที่ 278- 279-280- 281 ซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์
  • แหล่งที่มา:
  • วันที่วางจำหน่าย: 4:23:56 11-6-1404

โองการที่ 278- 279-280- 281 ซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์


يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُواْ اتَّقُواْ اللّهَ وَذَرُواْ مَا بَقِيَ مِنَ الرِّبَا إِن كُنتُم مُّؤْمِنِينَ (278) لَّمْ تَفْعَلُوا فَأْذَنُوا بِحَرْب مِّنَ اللَّهِ وَ رَسولِهِ وَ إِن تُبْتُمْ فَلَكمْ رُءُوس أَمْوَلِكمْ لا تَظلِمُونَ وَ لا تُظلَمُونَ (279) وَ إِن كانَ ذُو عُسرَة فَنَظِرَةٌ إِلى مَيْسرَة وَ أَن تَصدَّقُوا خَيرٌ لَّكمْ إِن كُنتُمْ تَعْلَمُونَ (280) وَ اتَّقُوا يَوْماً تُرْجَعُونَ فِيهِ إِلى اللَّهِ ثُمَّ تُوَفى كلُّ نَفْس مَّا كسبَت وَ هُمْ لا يُظلَمُونَ (281)

ความหมาย

278. โอ้บรรดาผู้ศรัทธา จงสำรวมตนต่ออัลลอฮฺ และจงละทิ้งส่วนที่เหลืออยู่ (ดอกเบี้ย) ถ้าสูเจ้าเป็นผู้ศรัทธา

279. ถ้าสูเจ้าไม่ได้ปฏิบัติตาม จงรู้ไว้เถิดว่าอัลลอฮฺ และศาสนทูตของพระองค์จะทำสงครามกับเจ้า แต่ถ้าสูเจ้าลุแก่โทษ สูเจ้าจะได้เงินต้นจากทรัพย์ของสูเจ้า (โดยไม่มีกำไร) สูเจ้าจะได้ไม่อธรรม และไม่ถูกอยุติธรรม

280. ถ้า (ลูกหนี้) อยู่ในความคับแค้น (ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้) ดังนั้น จงผ่อนปรนจนกว่าจะมีความสามารถ (ถ้าไม่สามารถจ่ายหนี้ได้จริง) จงยกหนี้ให้เป็นกุศลทาน (เพื่อพระเจ้า) ย่อมดีกว่าสำหรับสูเจ้า ถ้าสูเจ้ารู้ (ประโยชน์ของการกระทำเช่นนี้)

281. และจงยำเกรงต่อวันหนึ่ง ที่ในวันนั้นสูเจ้าจะถูกนำกลับไปยังอัลลอฮฺ และทุกชีวิตจะถูกตอบแทนอย่างครบถ้วนตามที่ได้ขวนขวายไว้ และพวกเขาจะไม่ถูกอธรรม

สาเหตุของการประทานโองการ

หลังจากโองการเรื่องดอกเบี้ยถูกประทานลงมา คอลิด บุตรของวะลีด ได้ไปหาท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) และกล่าวว่า บิดาของฉันทำสัญญาการค้ากับชนเผ่าหนึ่ง ซึ่งมีดอกเบี้ยร่วมปนอยู่ด้วย แต่จนถึงบัดนี้ยังไม่ได้ส่งดอกเบี้ยมาให้ บิดาของฉันสั่งเสียฉันว่า ให้เอาผลกำไรจากทรัพย์สินของเขา ซึ่งพวกเขายังไม่ได้จ่ายให้ ถ้าฉันจะกระทำเช่นนี้ ถือว่าอนุญาตหรือไม่ โองการนี้และอีก 3 โองการจึงได้ประทานลงมา และปฏิเสธการกินดอกเบี้ยอย่างรุนแรง

คำอธิบายการกินดอกเบี้ยเป็นบาปใหญ่ที่อาจเปรียบเทียบได้

โองการก่อนหน้านี้ประกาศกฎเกณฑ์ข้อนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งขณะที่โองการประทานลงมาถ้าหากมีผู้กินดอกเบี้ยอยู่ พวกเขาจะได้รับการอภัย และดอกเบี้ยที่เขาเก็บมาจะไม่ถูกริบแต่อย่างใด ส่วนโองการที่กำลังกล่าวถึงอธิบายว่า ส่วนที่ยังเหลืออยู่ หมายถึงดอกเบี้ยให้ละทิ้งเสีย หมายถึงนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สูเจ้าจงอย่าเรียกเก็บกำไรจากผู้กู้ยืม หรือจงอย่ากินดอกเบี้ยอีกต่อไป ซึ่งสิ่งนี้เป็นสัญลักษณ์ความศรัทธาของสูเจ้า

โองการถัดมาเปลี่ยนแนวการสนทนา ซึ่งหลังจากตักเตือนหลายครั้งแล้วตามกล่าวของโองการก่อนหน้านั้น โองการนี้จึงกล่าวคาดโทษอย่างรุนแรงสำหรับผู้ที่ไม่เลิกการกินดอกเบี้ย และเตือนสติพวกเขาอีกครั้งว่า ถ้ายังกระทำต่อไป โดยไม่ยอมจำนนกับความยุติธรรม ยังขูดเลือดกินเนื้อของประชาชนซ้ำอีก จงรู้ไว้เถิดว่า สูเจ้ากำลังทำสงครามกับพระเจ้า และศาสนทูตของพระองค์ ซึ่งทั้งสองจะประกาศสงครามกับสูเจ้า ดังที่บางโองการกล่าวว่า จงทำสงครามกับพวกละเมิด จนกว่าจะบรรลุบัญชาของพระองค์

อย่างไรก็ตามจะสังเกตเห็นว่า อัลกุรอานไม่เคยคาดโทษใดรุนแรงเฉกเช่นการกินดอกเบี้ย ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า การกินดอกเบี้ยได้รับการสาปแช่งจากพระเจ้าอย่างมาก ถึงขนาดตรัสว่า ผู้กินดอกเบี้ยเป็นศัตรูกับฉันและศาสนทูตของฉัน ซึ่งพวกเขาเป็นศัตรูขณะทำสงครามด้วยซ้ำ

หลังจากประกาศสงครามแล้วพระเจ้าทรงให้โอกาสแก่ผู้กินดอกเบี้ยอีกว่า ถ้าสูเจ้ากลับตัวกลับในจากการกระทำที่น่ารังเกลียดนี้ โองการกล่าวว่า แต่ถ้าสูเจ้าลุแก่โทษ สูเจ้าจะได้เงินต้นจากทรัพย์ของสูเจ้า (โดยไม่มีกำไร) หมายถึงสูเจ้าสามารถเอาเงินต้นจากลูกหนี้คืนได้ แต่ไม่สามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยได้ ถ้ากระทำเช่นนี้ สูเจ้าจะได้ไม่อธรรม และไม่ถูกอยุติธรรม สิ่งนี้ถือเป็นสโลแกนของมวลผู้ศรัทธาทั้งหลาย พวกเขาจะไม่รังแกคนอื่น และไม่ยอมถูกรังแกอย่างเด็ดขาด

โองการถัดมาอธิบายสถานภาพของลูกหนี้ว่า ถ้าพวกเขาไม่สามารถจ่ายหนี้คืนได้ (เงินต้นโดยไม่มีดอกเบี้ย) สูเจ้าต้องไม่ปฏิบัติตามแบบอย่างของคนในยุคโฉด ที่คิดดอกทบต้น และบีบบังคับลูกหนี้ในรูปแบบต่าง ๆ ทว่าอิสลามสอนว่า จงให้โอกาสแก่พวกเขา ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าเป็นกฎเกณฑ์โดยทั่วไปสำหรับเจ้าหนี้ทุกคนที่พึงปฏิบัติเช่นนี้ ตามหลักการอิสลามยังสอนอีกว่า สูเจ้าไม่มีสิทธิยึดบ้าน หรือทรัพย์ที่เป็นปัจจัยจำเป็นของลูกหนี้ สูเจ้าพึงเรียกกลับเฉพาะเงินต้นได้เท่านั้น การกระทำทำนองนี้เป็นการช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาสทางสังคม

สุดท้ายโองการกล่าวว่า ถ้า (ลูกหนี้) อยู่ในความคับแค้น (ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้) ดังนั้น จงผ่อนปรนจนกว่าจะมีความสามารถ (ถ้าไม่สามารถจ่ายหนี้ได้จริง) จงยกหนี้ให้เป็นกุศลทาน (เพื่อพระเจ้า) ย่อมดีกว่าสำหรับสูเจ้า ถ้าสูเจ้ารู้ (ประโยชน์ของการกระทำเช่นนี้) จริง ๆ แล้วสิ่งนี้เป็นประเด็นที่อยู่เหนือปัญหาเรือง สิทธิ เป็นเรื่องของศีลธรรมจรรยา สำหรับบุคคลที่มีมนุษยธรรม เป็นการถอดถอนความเห็นแก่ตัว และการแก้แค้น ให้เปลี่ยนเป็นความรัก และมิตรภาพที่ดีต่อกัน

โองการถัดมา เป็นโองการสุดท้ายที่กล่าวเตือนสติผู้กินดอกเบี้ยอย่างรุนแรง และเป็นโองการสุดท้ายที่กล่าวเรื่องดอกเบี้ย ปกติแล้วอัลกุรอานหลังจากอธิบายรายละเอียดของกฎเกณฑ์ และโครงสร้างต่าง ๆ ของอิสลามแล้ว จะกล่าวถึงสภาพโดยรวมเพื่อเน้นถึงสิ่งที่กล่าวผ่านมา เพื่อให้กฎบัญญัติก่อนหน้านั้นมีความสมบูรณ์ และซึมซับอยู่ในความคิดของมนุษย์

ด้วยเหตุนี้ โองการที่กำลังกล่าวถึงจึงเตือนเรื่องการลงโทษของผู้กระทำบาปทั้งหลาย โดยเตือนพวกเขาว่า จงยำเกรงต่อวันหนึ่ง ที่ในวันนั้นสูเจ้าจะถูกนำกลับไปยังอัลลอฮฺ การกระทำทุกอย่างของเขาจะถูกนำเสนออย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทุกสิ่งที่ตนสะสมไว้บนโลกจะได้จะถูกนำมาแสดงทั้งหมด และเวลานั้นความเลวที่ก่อไว้จะสร้างความหวาดกลัวแก่ตน และทุกชีวิตจะถูกตอบแทนอย่างครบถ้วนตามที่ได้ขวนขวายไว้ และพวกเขาจะไม่ถูกอธรรม

ประเด็นสำคัญ

ตำราอธิบายอัลกุรอาน ส่วนใหญ่กล่าวว่า โองการข้างต้นเป็นโองการสุดท้ายที่ประทานแก่ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ซึ่งเมื่อพิจารณาจากสาระของโองการแล้วทำให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้สูง

การกินดอกเบี้ยในทัศนะของจริยธรรม นับว่ามีอิทธิพลอย่างสูงทางด้านจิตวิญญาณ อย่างน้อยที่สุดความอคติ และความเห็นแก่ตัวได้ครอบงำจิตใจของเขาจนหมดสิ้น อีกด้านหนึ่งการช่วยเหลือ และความเห็นใจด้านมนุษยธรรมจะเจือจางหายไปจากสังคม ผู้เป็นนายทุนจะมุ่งหวังแต่ประโยชน์ของตน โดยมิได้คิดถึงความทุกข์ยากของคนอื่น

รายงานกล่าวถึงเรื่องการห้ามกินดอกเบี้ย โดยฮิชาม บุตรของซาลิม รายงานจากท่านอิมามซอดิก (อ.) ว่า พระเจ้าทรงห้ามเรื่องดอกเบี้ย เพื่อมิให้ประชาชนถูกห้ามปรามจากการกระทำความดี