คำอธิบายโองการที่ 145 จากบทอัลบะกอเราะฮ์
  • ชื่อ: คำอธิบายโองการที่ 145 จากบทอัลบะกอเราะฮ์
  • แหล่งที่มา:
  • วันที่วางจำหน่าย: 0:9:26 26-9-1404

คำอธิบายโองการที่ 145 จากบทอัลบะกอเราะฮ์

 

 

وَ لَئنْ أَتَيْت الَّذِينَ أُوتُوا الكِتَب بِكلِّ ءَايَة مَّا تَبِعُوا قِبْلَتَك وَ مَا أَنت بِتَابِع قِبْلَتهُمْ وَ مَا بَعْضهُم بِتَابِع قِبْلَةَ بَعْض وَ لَئنِ اتَّبَعْت أَهْوَاءَهُم مِّن بَعْدِ مَا جَاءَك مِنَ الْعِلْمِ إِنَّك إِذاً لَّمِنَ الظلِمِينَ (145)

ความหมาย

145. ขอสาบาน ถ้าเจ้าจะนำสัญญาณ (หลักฐาน และเหตุผล) ทุกอย่างมาแสดงแก่บรรดาผู้ได้รับคัมภีร์พวกเขาจะไม่ปฏิบัติตามทิศของเจ้า และเจ้าก็ไม่ใช่ผู้ปฏิบัติตามทิศของพวกเขา และบางกลุ่มของพวกเขาก็ไม่เป็นผู้ปฏิบัติตามทิศของอีกบางกลุ่ม และถ้าเจ้าปฏิบัติตามอารมณ์ของพวกเขา หลังจากได้มีความรู้มายังเจ้าแล้ว แน่นอน เจ้าจะอยู่ในหมู่ผู้อธรรม

คำอธิบาย พวกเขาไม่พอใจไม่ว่าอย่างไรก็ตาม

โองการก่อนหน้านี้อธิบายแล้วว่า ชาวคัมภีร์รู้ดีว่าการเปลี่ยนกิบละฮฺจากบัยตุลมุก็อดดิซ ไปยังอัล-กะอฺบะฮฺ มิใช่ข้อท้วงติงที่จะนำมากล่าวอ้างกับศาสดา สิ่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของความจริงที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ของพวกเขา ซึ่งกล่าวว่า ศาสดาพยากรณ์จะนมาซสองกิบละฮฺ ความอคติได้ครอบงำทำให้พวกเขาไม่ยอมรับความจริง

ปกติแล้วถ้ามนุษย์ไม่ได้ตัดสินใจไว้ล่วงหน้า เขาสามารถทำความเข้าใจกับสิ่งนั้นได้ หรือด้วยเหตุผล หรือการแสดงอภินิหารต่าง ๆ สามารถเปลี่ยนความเชื่อและพิสูจน์ความจริงให้เขาเห็นได้

แต่ถ้าตัดสินใจไว้ก่อนแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบุคคลที่มีอคติ หรือเป็นผู้โฉดเขลา เขาจะไม่ยอมรับความจริงแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม

อัล-กุรอาน เมื่อกล่าวถึงคำพูดเช่นนี้ ถ้าไม่ใช่ประเด็นที่มีเงื่อนไข และเป็นกล่าวถึงท่านศาสดาจะมีเป้าหมาย 3 ประการด้วยกัน ประการที่หนึ่ง เป็นการแสดงให้เห็นว่าประชาชนทุกคน เมื่ออยู่ต่อหน้ากฎหมาย และบทบัญญัติของพระเจ้า จะไม่มีความแตกต่างกัน ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะในหมู่พวกเขา แม้แต่ศาสดาก็อยู่ภายใต้บทบัญญัติเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ สมมุติว่าท่านศาสดาออกนอกลู่นอกทางที่พระองค์กำหนด ก็จะถูกลงโทษจากพระเจ้าด้วยเช่นกัน แม้ว่าสมมุติฐานเช่นนี้ กับท่านศาสดาที่มีความศรัทธามั่นคง มีความรู้ และมีความยำเกรงต่อพระเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด จะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม แต่ถ้าสมมุติฐานเกิดขึ้นจริง เวลานั้นประชาชนจะระมัดระวังการกระทำของตนได้อย่างไร

ประการที่สอง เราต้องไม่หลงกลอารมณ์ของศัตรูที่คิดจะหันเหเราออกนอกแนวทาง ให้กลายเป็นมิตร และเพื่อนพ้องของพวกเขา

ประการที่สาม ท่านศาสดาจะไม่เปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของพระเจ้าตามเจตนารมณ์เสรีของตน และจะไม่วันเป็นเช่นนั้นเด็ดขาด ท่านศาสดาเชิญชวนมนุษย์ไปสู่การสร้างสรรค์จรรโลง เพราะท่านก็เป็นบ่าวคนหนึ่งที่น้อมรับในพระบัญชาของพระองค์เช่นกัน