คำอธิบายโองการที่ 118-119 จากบทอัลบะกอเราะฮ์
وَ قَالَ الَّذِينَ لا يَعْلَمُونَ لَوْ لا يُكلِّمُنَا اللَّهُ أَوْ تَأْتِينَا ءَايَةٌ كَذَلِك قَالَ الَّذِينَ مِن قَبْلِهِم مِّثْلَ قَوْلِهِمْ تَشبَهَت قُلُوبُهُمْ قَدْ بَيَّنَّا الاَيَتِ لِقَوْم يُوقِنُون َ(118)إِنَّا أَرْسلْنَك بِالْحَقِّ بَشِيراً وَ نَذِيراً وَ لا تُسئَلُ عَنْ أَصحَبِ الجَْحِيمِ (119
ความหมาย
118. บรรดาผู้ไม่รู้กล่าวว่า ไฉนอัลลอฮฺจึงไม่ตรัสแก่เรา หรือไม่มีโองการหรือสัญญาณมายังเรา บรรดาชนก่อนหน้าพวกเขา ก็ได้พูดเยี่ยงการกล่าวของพวกเขา หัวใจของพวกเขาคล้ายคลึงกัน แต่เราได้แจกแจงสัญญาณต่าง ๆ แล้ว แก่ประชาชนผู้เชื่อมั่น (แสวงหาสัจธรรม)
119. แท้จริงเราได้ส่งเจ้าพร้อมด้วยสัจธรรม เพื่อแจ้งข่าวดี และตักเตือนประชาโลก และเจ้าจะไม่ถูกไต่สวนเกี่ยวกับชาวนรกที่ลุกโชติช่วง (หลังจากเผยแผ่สาส์นแล้ว)
คำอธิบาย เพราะเหตุใดพระเจ้าจึงไม่ตรัสกับเรา
โองการก่อนหน้านี้กล่าวถึงคำกล่าวอ้างของพวกยิว ส่วนโองการนี้กล่าวถึงกลุ่มอื่นที่ชอบหาข้ออ้างต่อร้องกับท่านศาสดาเช่นกัน ได้แก่บรรดาผู้ตั้งภาคีเทียบเทียมพระเจ้า พวกเขากล่าวว่า ทำไมพระเจ้าไม่พูดกับเรา ทำไม่โองการและสัญญาณต่าง ๆ ไม่ประทานลงมาให้เรา
อัล-กุรอานตอบข้อกล่าวอ้างของพวกเขาว่า บรรดาชนก่อนหน้าพวกเขา ก็ได้พูดเยี่ยงการกล่าวของพวกเขา หัวใจของพวกเขาคล้ายคลึงกัน แต่เราได้แจกแจงสัญญาณต่าง ๆ แล้ว แก่ประชาชนผู้เชื่อมั่น (แสวงหาสัจธรรม)
ถ้าหากพวกเขามีเจตนาค้นหาสัจธรรมและความจริงแล้วละก็ เพียงแค่โองการนี้ที่ประทานให้ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ก็เพียงพอแล้วต่อการยืนยันความสัตย์จริงของท่าน มีความจำเป็นอันใดที่โองการต้องประทานให้ทุกคนต่างหาก และมีความจำเป็นอันใดที่ต้องเห็นพระเจ้าด้วยตาตนเอง
ประการที่สอง เป็นไปไม่ได้ที่โองการและสิ่งมหัศจรรย์จะถูกประทานให้ทุกคน เนื่องจากเงื่อนไขสำคัญของการรับโองการคือ ต้องมีความดีงาม และจิตวิญญาณต้องสะอาดเพียงพอ พร้อมที่จะรับโองการ
โองการต่อมาได้กล่าวแก่ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ถึงเรื่องหน้าที่รับผิดชอบ เมื่อท่านต้องเผชิญกับการขอร้องเรื่องความมหัศจรรย์ และคำกล่าวอ้างต่าง ๆ พระองค์ตรัสว่า เจ้ามีหน้าที่อธิบายคำบัญชาของฉันแก่ประชาชน แสดงความมหัศจรรย์ให้ประชาชนได้เห็น และอธิบายสัจธรรมความจริงด้วยตรรกะ การเชิญชวนของเจ้าต้องควบคู่กับการปฏิบัติคุณงามความดี ให้หลักประกันแก่คนทำบาป เหล่านี้เป็นหน้าที่ของเจ้า แต่ถ้ามีบางกลุ่มจากพวกเขาไม่ศรัทธาต่อเจ้า หลังจากที่เจ้าได้อธิบายสาส์นของฉันอย่างครบถ้วนแล้ว ดังนั้น เจ้าไม่มีหน้าที่รับผิดชอบคนบาปทั้งหลาย
ประเด็นสำคัญ
การแจ้งข่าวดี การเชิญชวน การสนับสนุน และการคาดโทษ ทั้งหมดเป็นหนึ่งในอุดมการณ์ของ การอบรมสั่งสอน การจัดตั้งและการขับเคลื่อนสังคม มนุษย์มีหน้าที่ให้การสนับสนุนการกระทำการดี และห้ามปรามการทำความชั่ว เพื่อการเตรียมพร้อม ในการดำเนินสู่แนวทางแรก และหยุดยั้งตนเองมิให้ก้าวเดินไปในแนวทางที่สอง
การสนับสนุนมิใช่เพื่อการไปถึงยังความสมบูรณ์ของบุคคลหรือสังคมเพียงอย่างเดียว ทว่าเป็นการให้ความมั่นใจแก่มนุษย์ว่าจะไม่กระทำบาปอีกต่อไป
ความสมดุลระหว่างทั้งสองถือว่าจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากถ้ามีการสนับสนุนมากจนเกินขอบเขต จะทำให้มนุษย์กลายเป็นผู้หลงลืม แต่ถ้าการระทมทุกข์มีมากเกินกว่าเหตุ จะทำให้มนุษย์หมดหวัง แสงสว่างแห่งความรักและการขับเคลื่อนก็จะยุติลง
ด้วยเหตุนี้ อัล-กุรอานจึงใช้คำว่า ตักเตือน (นะซีร) แจ้งข่าวดี (อินซอร) ไว้เคียงข้างกัน หรือบางครั้งการแจ้งข่าวดีก็มาก่อนการตักเตือน ดังเช่นโองการที่กำลังกล่าวถึงในขณะนี้ แม้ว่าโองการอัล-กุรอานส่วนใหญ่ จะใช้คำว่า จงแจ้งข่าวดีก่อนการตักเตือนก็ตาม ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าความเมตตาของพระเจ้า อยู่เหนือความโกรธกริ้ว และการลงโทษของพระองค์ โอ้พระผู้ซึ่งความเมตตาของพระองค์อยู่เหนือความกริ้วโกรธ