@laravelPWA
คำอธิบายโองการที่ 113 จากบทอัลบะกอเราะฮ์
  • ชื่อ: คำอธิบายโองการที่ 113 จากบทอัลบะกอเราะฮ์
  • แหล่งที่มา:
  • วันที่วางจำหน่าย: 15:51:36 11-6-1404

 

คำอธิบายโองการที่ 113 จากบทอัลบะกอเราะฮ์

 

وَ قَالَتِ الْيَهُودُ لَيْستِ النَّصرَى عَلى شىْء وَ قَالَتِ النَّصرَى لَيْستِ الْيَهُودُ عَلى شىْء وَ هُمْ يَتْلُونَ الْكِتَب كَذَلِك قَالَ الَّذِينَ لا يَعْلَمُونَ مِثْلَ قَوْلِهِمْ فَاللَّهُ يحْكُمُ بَيْنَهُمْ يَوْمَ الْقِيَمَةِ فِيمَا كانُوا فِيهِ يخْتَلِفُونَ (113)

ความหมาย

113. และพวกยิวกล่าวว่า พวกคริสต์มิได้ตั้งอยู่บนสิ่งใด และพวกคริสต์กล่าว่า ชาวยิวมิได้ตั้งอยู่บนสิ่งใด ทั้ง ๆ ที่พวกเขาอ่านคัมภีร์ ในทำนองเดียวกัน พวกที่ไม่มีความรู้ (บรรดามุชริก) ก็ยังกล่าวเยี่ยงคำกล่าวของพวกเขา ดังนั้น ในวันฟื้นคืนชีพ อัลลอฮฺจะทรงตัดสินระหว่างพวกเขาในเรื่องที่พวกเขาขัดแย้งกัน

สาเหตุของการประทานโองการ

นักอรรถาธิบายส่วนใหญ่รายงานจากท่านอิบนิอับบาซว่า ขณะที่คริสเตียนกลุ่มหนึ่ง (นัจรอน) มาพบท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) มีผู้รู้ชาวยิวกลุ่มหนึ่งอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว พวกเขาโต้เถียงกันต่อหน้าท่านศาสดา และพูดจาถากถางกันอย่างรุนแรง รอฟิอฺ บุตรของฮุรมะละฮฺ เป็นยิวคนหนึ่งหันไปทางกลุ่มคริสเตียน และกล่าวว่า ศาสนาของพวกท่านไม่มีที่มาและไม่รากฐานมั่นคง เขาปฏิเสธสภาวะความเป็นศาสดาของศาสดาอีซา และคัมภีร์อินญิล ชายคริสเตียนคนหนึ่ง ลุกขึ้นและกล่าวเยี่ยงที่เขากล่าวว่า ศาสนายิวก็ไม่มีแก่นสารและรากฐานมั่นคงแต่อย่างไร ขณะนั้นอัล-กุรอานได้ประทานลงมา กล่าวถึงความไม่ถูกต้องของพวกเขาพร้อมกับประณามพวกเขา

คำอธิบาย การต่อต้านเกิดจากความเห็นแก่ตัว

โองการที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นถึงคำกล่าวอ้างที่ไม่มีเหตุผลของพวกยิวและคริสเตียน เมื่อรากฐานของการกล่าวอ้างไม่มีเหตุผล ผลลัพธ์จึงลงเอยด้วยความเห็นแก่ตัว และการต่อต้าน ประโยคที่กล่าวว่า มิได้ตั้งอยู่บนสิ่งใด แสดงให้เห็นว่า ณ องค์พระผู้อภิบาลแล้วพวกเขามิได้มีเกียรติหรือตำแหน่งใด ๆ ทั้งสิ้น หรือีกนัยหนึ่งศาสนาของพวกเขามิได้รับการพิจารณา หลังจากนั้นตรัสว่า พวกเขาพูดขณะที่พวกเขาอ่านคัมภีร์

หมายถึง พวกเขามีคัมภีร์ของพระเจ้าอยู่ในมือ สามารถเอาคัมภีร์มาเป็นทางนำได้แต่กลับไม่ทำเช่นนั้น คำพูดของพวกเขาบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า ได้ออกมาจากก้นบึ้งของความอคติและความดื้อรั้นอันเป็นนิสัยดั้งเดิมของพวกเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่หน้าประหลาดอย่างยิ่ง

โองการข้างต้นกล่าวว่าแหล่งที่มาของความอคติคือ ความโง่เขลา เนื่องจากบุคคลที่โง่เขลามักจำกัดขอบเขตการดำเนินชีวิตให้อยู่ในแวดวงจำกัด จะไม่ยอมรับสิ่งอื่นที่นอกเหนือจากตน พวกเขาเคยชินกับศาสนาของบรรพบุรุษมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าศาสนาเหล่านั้นจะถูกเสริมเติมแต่ง และไม่มีแก่นสารความจริง แต่พวกเขากลับมีจิตใจผูกพันอย่างลึกซึ้งชนิดที่ไม่สามารถเปลี่ยนไปสู่ศาสนาที่มีความถูกต้องได้ และปฏิเสธคำสั่งสอนของศาสนาอื่นทั้งหมด

ขณะเดียวกันโองการข้างต้นได้ปลอบประโลมบรรดามุสลิมให้มีความอุ่นใจว่า ถ้าพวกเขาต่อสู้กันบนพื้นฐานศาสนาของตน ต่างฝ่ายต่างปฏิเสธศาสนาของกันและกัน ฉะนั้น พวกเจ้าไม่ต้องเป็นกังวล เนื่องจากพวกเขาต่างไม่ยอมรับกันและกัน ซึ่งปกติแล้วความโง่เขลามักออกมาจากความอคติ ซึ่งอคตินั้นออกมาจาก ความเห็นแก่ตัว