@laravelPWA
คำอธิบายโองการที่ 106- 107 จากบทอัลบะกอเราะฮ์
  • ชื่อ: คำอธิบายโองการที่ 106- 107 จากบทอัลบะกอเราะฮ์
  • แหล่งที่มา:
  • วันที่วางจำหน่าย: 15:53:47 11-6-1404

 

คำอธิบายโองการที่ 106- 107 จากบทอัลบะกอเราะฮ์

 

مَا نَنسخْ مِنْ ءَايَة أَوْ نُنسِهَا نَأْتِ بخَير مِّنهَا أَوْ مِثْلِهَا أَ لَمْ تَعْلَمْ أَنَّ اللَّهَ عَلى كلِّ شىْء قَدِيرٌ (106)أَ لَمْ تَعْلَمْ أَنَّ اللَّهَ لَهُ مُلْك السمَوَتِ وَ الأَرْضِ وَ مَا لَكم مِّن دُونِ اللَّهِ مِن وَلىّ وَ لا نَصِير (107)

 

ความหมาย

106.ไม่มีบัญญัติใดที่ยกเลิก หรือถูกทำให้ลืมเลือน (ล่าช้าในการยกเลิก) เราจะนำมาที่ดีกว่านั้น หรือเยี่ยงนั้น สูเจ้าไม่รู้หรือว่า แท้จริงอัลลอฮฺ อานุภาพ เหนือทุกสิ่ง

107. เจ้าไม่รู้หรือว่า แท้จริงอัลลอฮฺ ทรงมีอำนาจ (ปกครอง) แห่งชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดิน (ทรงสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงบัญญัติตามประสงค์) นอกจากอัลลอฮแล้ว ไม่มีผู้คุ้มครอง และผู้ช่วยเหลืออื่นใดสำหรับสูเจ้า (พระองค์ทรงรอบรู้ความเหมาะสมของสูเจ้าและทรงกำหนด)

คำอธิบาย จุดประสงค์ของการยกเลิก (นัซคฺ)

โองการกล่าวถึงการเผยแผ่ในหนทางเสื่อมเสียของพวกยะฮูดียฺ ที่ต่อต้านมุสลิม บางครั้งพวกเขากล่าวแก่มุสลิมว่า ศาสนา คือศาสนาของยะฮูดียฺ กิบละฮฺ คือกิบละฮฺของยะฮูดียฺ ด้วยเหตุนี้ ขณะนมาซ ศาสดาของพวกท่านหันหน้ามาทางกิบละฮฺของเรา (บัยตุลมุก็อดดิซ) แต่เมื่อบัญญัติเกี่ยวกับกิบละฮฺเปลี่ยนแปลง ตามโองการที่ 144 บทเดียวกันนี้ บรรดามุสลิมจึงหันหน้ามาสู่กะอฺบะฮฺ (บัยตุลลอฮฺ) นับเป็นโอกาสทองที่มุสลิมได้หยิบฉวยจากพวกยะฮูดียฺ แต่พวกเขาก็หาข้อท้วงติงใหม่ ๆ ขึ้นมา โดยกล่าวว่า ถ้าหากกิบละฮฺแห่งแรกถูกต้อง กิบละฮฺแห่งที่สองจะมีความหมายอะไร ถ้าบัญญัติที่สองถูกต้อง สิ่งที่เราและบรรพชนของท่านกระทำผ่านมาในอดีต ถือว่าโมฆะ (บาฏิล) อัล-กุรอานจึงประทานลงมาเพื่อตอบข้อท้วงติงของพวกเขา และสร้างความชัดเจนแก่บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายว่า เจ้าไม่รู้หรือว่า แท้จริงอัลลอฮฺ ทรงมีอำนาจ (ปกครอง) แห่งชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดิน (ทรงสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงบัญญัติตามประสงค์) นอกจากอัลลอฮแล้ว ไม่มีผู้คุ้มครอง และผู้ช่วยเหลืออื่นใดสำหรับสูเจ้า (พระองค์ทรงรอบรู้ความเหมาะสมของสูเจ้าและทรงกำหนด)

หากพิจารณา จะพบว่าประโยคแรกของโองการนี้บ่งชี้ถึง การมีอำนาจของพระเจ้าเกี่ยวกับบทบัญญัติ และทรงอานุภาพเหนือการจำแนกความเหมาะสมของปวงบ่าวทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้ บรรดามุสลิมต้องไม่ใส่ใจต่อคำพูด และข้อท้วงติงของพวกยะฮูดียฺ เกี่ยวกับปัญหาการยกเลิกบทบัญญัติ

ประโยคที่สอง ย้ำเตือนว่า มุสลิมต้องไม่พึ่งพาอำนาจอื่นใดนอกจากอำนาจของพระเจ้า เนื่องจากอำนาจทั้งหลายบนโลกนี้ล้วนพึ่งพิงอำนาจของพระองค์

ประเด็นสำคัญ

1. การยกเลิกบทบัญญัติอนุญาตหรือไม่

คำว่า นัซคฺ ในเชิงภาษาหมายถึง การทำลาย หรือการทำให้สูญสิ้น ส่วนในเชิงของชัรอียฺหมายถึง การเปลี่ยนแปลงกฎบัญญัติ การแทนที่ หรือการตั้งกฎใหม่แทนกฎเก่า เช่น

มุสลิมหลังจากอพยพไปยังมะดีนะฮฺ นมาซหันหน้าไปทางบัยตุลมุก็อดดิซอยู่นานประมาณ 16 เดือน หลังจากนั้น มีคำสั่งให้เปลี่ยนกิบละฮฺ มุสลิมทั้งหมดจึงหันหน้าไปทางกะอฺบะฮฺ

อัล-กุรอาน บทนิซาอฺ โองการที่ 15 กำหนดการลงโทษหญิงผิดประเวณี (ซินา) ว่า และผู้หญิงที่ทำสิ่งลามก จากในหมู่หญิงของสูเจ้า ดังนั้น จงให้มีพยานสี่คนจากในสูเจ้ายืนยันต่อนาง ถ้าพวกเขายืนยัน ดังนั้น จงกักขังนางไว้ในบ้าน จนกระทั่งความตายปลิดชีวิตพวกนาง หรืออัลลอฮฺทรงเปิดหนทางอื่นสำหรับพวกนาง

บทบัญญัติของโองการข้างต้น ถูกยกเลิกโดยโองการที่ 2 ของซูเราะฮฺนูร ซึ่งโองการนี้เปลี่ยนการลงโทษผู้ที่ผิดประเวณีเป็นการเฆี่ยนตี กล่าวว่า พวกเจ้าจงโบยแต่ละคนในสองคนนั้นคนละหนึ่งร้อยที และอย่าให้ความสงสารยับยั้งการกระทำของพวกเจ้า

ตรงนี้มีข้อท้วงติงที่ได้ยินกันเป็นประจำว่า ถ้าบทบัญญัติแรกดีและมีความเหมาะสม ทำไรต้องยกเลิก ถ้าไม่มีเพราะเหตุใดจึงเริ่มวางบทบัญญัตินี้ตั้งแต่แรก หรืออีกนัยหนึ่ง จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าตั้งแต่เริ่มประกาศบทบัญญัติได้ขยายเติบโต และไม่ต้องการเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิก

เป็นที่แน่นอนว่า ความต้องการของมนุษย์บางครั้งต้องพังพินาศลง เนื่องจากกาลเวลา และเงื่อนไขสังคมผันแปรเปลี่ยนไป บางครั้งก็มั่นคงอยู่กับที่ วันหนึ่งโครงการของตนอาจเป็นหลักประกันความสุข แต่อีกวันหนึ่งเนื่องจากเงื่อนไขเปลี่ยนไปโครงการนั้นกลับกลายเป็นอุปสรรคขวางกั้นวิถีชีวิตก็ได้

วันนี้ยาบำบัดเพื่อรักษาอาการป่วยไข้เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง แพทย์ส่วนใหญ่สั่งให้ใช้ยานั้น แต่ต่อมาเนื่องจากอาการไข้เลวร้ายขึ้น ยาที่เคยมีประโยชน์อาจให้โทษก็ได้ แพทย์จึงสั่งระงับการใช้ยาประเภทนั้น และผลิตยาตัวใหม่ขึ้นมาแทนที่

ประเด็นดังกล่าวนี้ ถ้าหากพิจารณาถึงกฎเกณฑ์ความสมบูรณ์ของมนุษย์ และสังคมจะทำให้ประจักษ์ชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะความสมบูรณ์ของมนุษย์บางครั้งกิจกรรมต่าง ๆ ก็เป็นประโยชน์ และมนุษย์ต้องการสิ่งนั้น แต่บางครั้งก็ไม่มีประโยชน์และจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการปฏิวัติ สังคม และความศรัทธาจำเป็นต้องเปลี่ยนไป ยิ่งเวลาผ่านไปมากเท่าใดก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น

แน่นอนต้องไม่ลืมว่า หลักการและบทบัญญัติต่าง ๆ ของพระเจ้าคือพื้นฐานสำคัญสำหรับการจัดตั้ง และทั้งหมดนั้นเท่าเทียมกัน หลักความเป็นเอกะของพระเจ้า ความยุติธรรมของสังคม และกฎเกณฑ์อื่น ๆ อีกมากมายที่คล้ายคลึงกันจะไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนที่เปลี่ยนแปลงคือประเด็นที่เล็กรองลงมา

เป็นที่รู้กันว่าพวกยะฮูดียฺปฏิเสธการยกเลิกทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงท้วงติงบรรดามุสลิมเมื่อครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงกิบละฮฺ แต่ตามหลักการของศาสนาของพวกเขาแล้วจำเป็นต้องยอมรับ

แม้ว่าคัมภีร์เตารอตจะกล่าวว่า ขณะที่ศาสดานูฮฺ (อ.) ขึ้นจากเรือ พระเจ้าทรงอนุมัติให้สัตว์ทั้งหมดฮะลาล แต่ในหลักการของศาสนามูซากฎนี้ถูกยกเลิกไป และสัตว์บางประเภทถูกห้ามรับประทาน

2. การอธิบายประโยคที่ว่า หลงลืมไป (นุนซิฮา)

ประโยคที่กล่าวว่า นุนซิฮา ในโองการที่กำลังกล่าวถึงตามหลักภาษาอาหรับถือว่า เป็นประโยคที่อัฏฟ์ (ต่อเชื่อมและสามารถแทนทีประโยคแรกได้) บนประโยค มานันซัค มาจากรากศัพท์คำว่า อันซาอุน (انساء ) หมายถึง การลืม การปล่อยให้ล่าช้า การตัด หรือการขจัดให้ออกไปจากสมอง

อาจมีคำถามว่าความเข้าใจของประโยคดังกล่าว โดยพิจารณาที่ประโยค มานันซัค คืออะไร

จุดประสงค์ของโองการ ณ ที่นี้ต้องการกล่าวว่า ถ้าหากเราต้องการยกเลิกโองการ หรือยกเลิกตามความเหมาะสมแต่ล่าช้า ซึ่งทั้งสองกรณีเราจะนำสิ่งที่ดีกว่า หรือเยี่ยงนั้นมาแทนที่ ด้วยเหตุนี้ ประโยคที่กล่าวว่า เราจะยกเลิก บ่งชี้ไปที่การยกเลิกในระยะสั้น ส่วนประโยคที่กล่าวว่า นุนซิฮา บ่งชี้ถึงการยกเลิกในระยะยาว

3. คำอธิบายประโยคที่กล่าวว่า หรือเยี่ยงนนั้น

จุดประสงค์ของคำว่า เยี่ยงนั้นหมายถึงอะไร ถ้าสมมุติว่ากฎนั้นเหมือนกับกฎที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงถือเป็นสิ่งไร้สาระ เนื่องจากการยกเลิกกฎหนึ่งและนำกฎที่คล้ายคลึงกันเยี่ยงนั้นมาแทนที่ โดยปกติสิ่งที่มายกเลิก หรือสิ่งที่มาแทนที่ต้องดีกว่าสิ่งที่ถูกยกเลิก เพื่อว่าการยกเลิกจะได้เป็นที่ยอมรับ

จุดประสงค์ของ คำว่า เยี่ยงนั้น หมายถึง การนำกฎหรือบัญญัติที่ภายหลังจากนั้นผลของมันคล้ายหรือเหมือนกับกฎก่อนหน้านี้ในอดีต อีกนัยหนึ่ง อาจเป็นไปได้ว่า กฎเกณฑ์ในวันนี้ มีประโยชน์และเป็นผลอย่างยิ่ง แต่วันพรุ่งนี้ประโยชน์เหล่านี้จะหมดไป ในกรณีนี้กฎเกณฑ์ดังกล่าวจำเป็นต้องยกเลิก และนำกฎใหม่มาแทนที่ถึงแม้ว่ากฎใหม่จะไม่ดีไปกว่ากฎเก่าก็ตาม แต่อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีผลเหมือนกับกฎเก่าในอดีตที่ผ่านมา แต่เป็นกฎใหม่ในสมัยนี้ ด้วยเหตุนี้ จะเห็นว่าไม่มีข้อท้วงติงหลงเหลืออีกต่อไป