คำอธิบายโองการที่ 37-38-39 จากบทอัลบะกอเราะฮ์
فَتَلَقَّى ءَادَمُ مِن رَّبِّهِ كلِمَت فَتَاب عَلَيْهِ إِنَّهُ هُوَ التَّوَّاب الرَّحِيمُ
قُلْنَا اهْبِطوا مِنهَا جَمِيعاً فَإِمَّا يَأْتِيَنَّكُم مِّنى هُدًى فَمَن تَبِعَ هُدَاى فَلا خَوْفٌ عَلَيهِمْ وَ لا هُمْ يحْزَنُونَ
وَ الَّذِينَ كَفَرُوا وَ كَذَّبُوا بِئَايَتِنَا أُولَئك أَصحَب النَّارِ هُمْ فِيهَا خَلِدُونَ
ความหมาย
37. หลังจากนั้นอาดัมได้เรียนรู้คำจากพระผู้อภิบาลของเขา (และขอลุแก่โทษด้วยคำเหล่านั้น) ดังนั้น พระองค์ทรงอภัยแก่เขา แท้จริงพระองค์คือ ผู้ทรงนิรโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
38. เราได้กล่าวว่า จงลงไปจากสวนทั้งหมด (ไปสู่โลก) ดังนั้น ถ้ามีคำแนะนำจากฉันมายังสูเจ้า แล้วผู้ใดปฏิบัติตามคำแนะนำของฉัน จะไม่มีความกลัวแก่พวกเขา และพวกเขาก็จะไม่เศร้าโศก
39. และบรรดาผู้ปฏิเสธ และมุสาในโองการต่าง ๆ ของเรา พวกเหล่านี้เป็นชาวนรก พวกเขาจะอยู่ในนั้นตลอดไป
คำอธิบาย อาดัมกลับไปยังพระเจ้า
หลังจากการกระซิบกระซาบของอิบลีซ ได้มีคำสั่งให้อาดัมกับฮะวาออกจากสวรรค์ อาดัมทราบทันทีว่าตนได้อธรรมตนเองเสียแล้ว จึงครุ่นคิดถึงการทดแทนความผิดพลาดนั้น จิตวิญญาณของอาดัมมุ่งตรงและสงบมั่นต่อพระเจ้าด้วยความสำนึก
ความการุณย์ของพระเจ้าได้แผ่ปกคลุมและคอยช่วยเหลืออาดัม หมายถึง ความเมตตาที่พระองค์ประทานให้พิเศษ เนื่องจากการกระทำความผิด และพระองค์ได้ถอดถอนออกไปจากเขา และหลังจากที่เขาได้กลับมาสู่การภักดีอีกครั้ง พระองค์ได้มอบความเมตตาพิเศษแก่เขาอีก ดังนั้น พระองค์จึงถูกเรียกว่า ผู้ทรงนิรโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ แน่นอนว่า แม้ว่าอาดัมไม่ได้กระทำสิ่งที่ฮะรอม แค่ละเว้นสิ่งที่ดีกว่า ก็ถือว่าได้กระทำความผิด ฉะนั้น เมื่ออาดัมเข้าใจสถานภาพของตนเอง จึงรีบกลับคืนสู่พระผู้อภิบาลทันที
เหตุใดโองการต่อมาจึงกล่าวประโยค อิฮ์บิฏู ซ้ำ ๆ อีก
โองการที่กำลังกล่าวถึง และโองการที่ 36 ก่อนและหลังการขอลุแก่โทษ พระเจ้าตรัสกับอาดัมและฮะวาว่า จงลงไปสู่โลก ซึ่งการกล่าวประโยคนี้ซ้ำก็เพื่อเน้น หรือบ่งบอกถึง 2 เรื่องราวอื่นตามที่นักอรรถาธิบายอัลกุรอานส่วนใหญ่กล่าวไว้ แต่ในความเป็นจริงอาจเป็นไปได้ว่าประโยคที่สอง ต้องการบ่งชี้ถึงความจริงที่ว่า อาดัมอย่าคิดว่าการยอมรับการลุแก่โทษแล้ว จะไม่ถูกส่งมายังพื้นโลก ทว่าอาดัมต้องดำเนินชีวิตไปตามแนวทางนั้น หรือเนื่องจากว่า อาดัมได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเจตนาดังกล่าว หรืออาจเป็นเพราะว่าการลงมาสู่พื้นโลกเนื่องจากการกระทำของเขา และผลจากการกระทำไม่สามารถลบล้างได้ด้วยการขอลุแก่โทษ
ใครคือบุคคลที่ถูกกล่าวถึง
คำว่า อิฮ์บิฏู ถูกใช้ในรูปของพหูพจน์ ขณะที่อาดัมและฮะวา เพียงสองคนที่อัล-กุรอานกล่าวถึง ซึ่งตามหลักภาษาอาหรับแล้วต้องใช้ สรรพนามแทนสองคน (ตัซนียะฮ์) แต่เนื่องจากว่าการลงมายังโลกของอาดัมกับฮะวา ส่งผลให้บุตรหลานของท่านต้องอาศัยอยู่บนโลกด้วย ดังนั้น จึงใช้คำสรรพนามในรูปของพหูพจน์
แต่สำหรับบุคคลที่เป็นกาฟิร (ผู้ปฏิเสธพระเจ้า) และสัญลักษณ์ต่าง ๆ ของพระองค์ จะต้องถูกลงโทษในไฟนรกตลอดไป
ประเด็นสำคัญ
คำที่พระเจ้าทรงสอนอาดัมคืออะไร
อัล-กุรอานกล่าวว่า พระเจ้าทรงสอนอาดัมให้รู้จักคำ ๆ หนึ่ง เมื่ออาดัมเอ่ยคำนั้นออกมา การลุแก่โทษจึงถูกตอบรับ นักอธิบายอัลกุรอานมีทัศนะแตกต่างกัน ดังนี้
1. ทั่วไปกล่าวว่าคำ ๆ นั้น คือประโยคที่กล่าวไว้ใน บทอะอ์รอฟ โองการที่ 23 ว่า เขาทั้งสองได้กล่าวว่า โอ้พระผู้อภิบาลของพวกเรา พวกเราได้อธรรมตัวเอง และถ้าพระองค์ไม่ทรงอภัยโทษแก่พวกเรา และเมตตาแก่พวกเราแล้ว แน่นอน พวกเราต้องกลายเป็นพวกที่ขาดทุน
2. บางคนกล่าวว่า จุดประสงค์ของ กะลิมาต คือดุอาอ์บทดังต่อไปนี้
اَللَّهُمَّ لاَ اِلهَ اِلاَّ اَنْتَ سُبْحَانَكَ وَ بِحَمْدِكَ رَبِّ اِنَِىْ ظَلَمْتُ نَفْسِى فَاغْفِرْ لِىْ اِنَّكَ خَيْرُ الْغَافِرِيْنَ ، اَللَّهُمَّ لَا اِلهَ اِلَّا انَتَ سُبْحَانَكَ وَ بِحَمْدِكَ رَبِّ اِنِّى ظَلَمْتُ نَفْسِى فَارْحَمْنِىْ اِنَّكَ خَيْرُ الرَّاحِمِيْن، الّلَّهُمَّ لَا اِلهَ اِلاَّ انَتَ سُبْحَانَكَ وَ بِحَمْدِكَ رَبِّ اِنِّى ظَلَمْتُ نَفْسِى فَتُبْ عَلَىَّ اِنَّكَ اَنْتَ التَّوَّابُ الرَّحِيْم
โอ้ข้าแต่พระองค์ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่พระองค์ ข้าฯสรรเสริญพระองค์ โอ้พระผู้อภิบาลของข้าฯ ข้าฯอธรรมตัวเอง ขอทรงโปรดอภัยแก่ข้าฯ แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงเป็นเลิศในหมู่ผู้อภัยทั้งหลาย โอ้ข้าแต่พระองค์ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่พระองค์ ข้าฯสรรเสริญพระองค์ โอ้พระผู้อภิบาลของข้าฯ ข้าฯอธรรมตัวเอง ขอทรงโปรดเมตตาข้า แท้จริงพระองค์คือผู้เป็นเลิศในหมู่ผู้เมตตาทั้งหลาย โอ้ข้าแต่พระองค์ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่พระองค์ ข้าฯสรรเสริญพระองค์ โอ้พระผู้อภิบาลของข้าฯ ข้าอธรรมตนเอง ขอทรงโปรดนิรโทษแก่ข้าฯ แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงนิรโทษ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
ความหมายที่ใกล้เคียงกันนี้ อัลกุรอาน กล่าวถึงศาสดามูซา (อ.) ว่า เขากล่าวว่า ข้าแต่พระผู้อภิบาลของข้าฯ แท้จริงข้าฯอธรรมตนเอง ดังนั้นขอพระองค์ทรงอภัยให้แก่ข้าฯ แล้วพระองค์ก็ได้อภัยให้เขา แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ
3. รายงานบางบทกล่าวว่า อาดัมได้วอนขอให้พระเจ้ายอมรับการลุแก่โทษของท่าน โดยเอ่ยนาม ท่านศาสดามุฮัมมัด และอะฮ์ลุลบัยต์ของท่าน ได้แก่ อะลี ฟาฏิมะฮ์ ฮะซัน และฮุเซน นามอันจำเริญของท่านเป็นนามที่พระองค์ทรงสอนแก่อาดัม
การอธิบายอัลกุรอานทั้ง สามทัศนะ มิได้มีความขัดแย้งกันแม้แต่น้อย เนื่องจากเป็นไปได้ที่คำเหล่านั้น คือสิ่งที่พระองค์เคยสอนแก่อาดัมมาก่อน เพื่อให้อาดัมเข้าใจแก่นแท้ในส่วนลึกด้านในของพวกเขา