อิทธิพลของอาชูรอที่มีต่อการปฏิวัติและการตื่นตัวในโลกอิสลาม ตอนที่ 1
อิทธิพลของการยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ในโศกนาฏกรรมแห่งอาชูรอ ที่มีต่อการปฏิวัติต่างๆ ของประชาชนและการตื่นตัวในโลกอิสลาม
ขบวนการยืนหยัดต่อสู้แห่งอาชูรอ คือเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดหลังจากการถือกำเนิดของศาสนาอิสลาม ขบวนการยืนหยัดต่อสู้ครั้งนี้มีผลกระทบต่างๆ ที่สำคัญติดตามมา ซึ่งในฐานะที่เป็นวีรกรรมอันยิ่งใหญ่และเป็นนิรันดร์นั้น จะยังคงดำเนินไปจวบจนถึงวันอวสานของโลก ในความเป็นจริงแล้วขบวนการยืนหยัดต่อสู้แห่งอาชูรอ คือคบเพลิงที่ให้แสงสว่างแก่บรรดาประชาชาติมุสลิม ยิ่งไปกว่านั้น มันคือประทีปที่ให้แสงสว่างแก่บรรดาเสรีชนแห่งโลกทั้งมวล ในวันอาชูรอท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้กล่าวกับบรรดาทหารในกองทัพของอุมัร อิบนุซะอัดว่า “หากพวกเจ้าไม่เชื่อมั่นต่อศาสนา และพวกเจ้าไม่กลัวต่อวันแห่งการฟื้นคืนชีพแล้ว อย่างน้อยที่สุดในโลกนี้พวกเจ้าก็จงเป็นเสรีชนเถิด”
ผู้ใดก็ตามที่มีสัญชาติญาณของความเป็นมนุษย์อยู่ในตัวเองแล้ว เขาผู้นั้นจะต้องมีความเชื่อมั่นอย่างสมบูรณ์ต่อเรื่องราวแห่งอาชูรอและและวีรกรรมของท่านอิมามฮุเซน (อ.) เรื่องราวเกี่ยวกับวันอาชูรอและวีรกรรมของท่านอิมามฮุเซน (อ.) นั้นมีรากฐานที่มาจากสัญชาติญาณของมนุษย์ทั้งมวล ความเป็นเสรีชนและการไม่ยอมตกอยู่ภายใต้การครอบงำ การใช้อำนาจบีบบังคับและการกดขี่ของผู้ใดนั้น เป็นสิ่งที่มีอยู่ในสัญชาติญาณ (ฟิฏเราะฮ์) ของมนุษย์เช่นเดียวกัน และด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้เอง ผู้ใดก็ตามที่มีสัญชาติญาณแห่งความเป็นมนุษย์นี้อยู่ในตัวเขา เขาย่อมจะต้องมีความเชื่อมั่นอย่างสมบูรณ์ต่อโศกนาฏกรรมแห่งอาชูรอและวีรกรรมของท่านอิมามฮุเซน (อ.) และเรื่องราวดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อจิตใจของเขา
ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) กล่าวว่า
ان الحسین مصباج الهدی و سفینةالنجاة
“แท้จริงฮุเซน คือประทีปส่องทางนำและเป็นนาวาแห่งความปลอดภัย” (1)
ภาพรวมโดยทั่วไปที่บรรดาชีอะฮ์มีจากยุคเริ่มแรกของอิสลาม และยุคสมัยการปกครองของท่านอิมามอะลี (อ.) นั้น ยังคงสภาพอยู่ในรูปของอุดมคติสำหรับพวกเขาเสมอมา และพวกเขาได้ใช้ความอุตสาห์พยายามเพื่อที่จะบรรลุอุดมคตินั้น อุดมคติดังกล่าวนี้ได้ว่ายเวียนอยู่ในหัวใจและความนึกคิดของประชาชนตลอดมา ในรูปของความมุ่งหวังและความใฝ่ฝันต่อระบอบการปกครองที่มีความยุติธรรม ที่วางพื้นฐานอยู่บนบทบัญญัติดังเดิมต่างๆ ของอิสลาม และวางอยู่บนแนวทางการปกครองของท่านอิมามอะลี (อ.) ทำนองเดียวกันนี้ สิ่งที่ประชาชนได้ประมวลภาพจากขบวนการยืนหยัดต่อสู้แห่งอาชูรอ การเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้นับว่าเป็นความพยายามเพื่อที่จะทำให้บรรลุอุดมคติและความใฝ่ฝันดังกล่าวเช่นเดียวกัน
มหาตมะคานธี กล่าวว่า “ฉันได้อ่านชีวประวัติของท่านอิมามฮุเซน ชะฮีด (ผู้พลีชีพในหนทางของพระเจ้า) ผู้ยิ่งใหญ่อย่างละเอียด และฉันได้พิจารณาใคร่ครวญประวัติศาสตร์ของเหตุการณ์แห่งกัรบาลาอย่างถี่ถ้วน จนเป็นสิ่งที่กระจ่างชัดสำหรับฉันแล้วว่า หากประเทศอินเดียต้องการที่จะเป็นผู้ชนะแล้ว จำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามท่านอิมามฮุเซน”
(หนังสือ บัรชัฏฏี อาซ ฮะมอเซะฮ์ วะ ฮุฎูร, หน้าที่ 283, อ้างจากนิตยสาร “บะซออิร” ฉบับที่ 7และ 8, ตีพิมพ์พิเศษสำหรับเดือนมุฮัรร็อม, หน้าที่ 25)